จดหมายชี้แจงผลการดำเนินงานและงบการเงินประจำไตรมาสสองปี 44
ที่ ผดม.ก.02.51/2544
14 สิงหาคม 2544
เรื่อง นำส่งงบการเงินและชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่
30 มิถุนายน 2544
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงินรวมประจำไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2544 รวม 2 ฉบับ
บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงินรวม
ประจำไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2544 ที่ผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชี
ของบริษัทฯ และ ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มาพร้อมนี้ รวม 2 ฉบับ และขอชี้แจงผลการดำเนินงานที่
เปลี่ยนแปลงไปดังนี้
1. เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปี 2544 และ 2543
จากงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ ณ งวดครึ่งปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2544 จำนวน
251.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลกำไรสุทธิ จำนวน 108.0 ล้านบาท ณ งวดเดียวกันของปี 2543 มียอดเพิ่มขึ้น
กว่าร้อยละ 133.1 ทั้งนี้เป็นผลจากนโยบายการลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง การลดต้นทุนทางการเงิน การ
เปลี่ยนสัดส่วนผลิตภัณฑ์โดยเน้น Value Added Product มากขึ้น การบริหารความผันผวนของอัตราแลก
เปลี่ยน ตลอดจนได้รับผลดีจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาท แม้ว่าราคาของโลหะสังกะสีโลกเฉลี่ยในงวดครึ่งปี
2544 เท่ากับ 977 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลงจาก 1,132 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว หรือ
ลดลงกว่าร้อยละ 13.7
บริษัทฯ มีรายได้รวม ณ งวดครึ่งปีสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2544 จำนวน 2,715.1 ล้านบาท เพิ่ม
ขึ้นจาก 2,374.9 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2543 หรือเท่ากับร้อยละ 14.3 โดยเป็นยอดขายผลิตภัณฑ์โลหะ
สังกะสีแท่ง (Zinc Ingot) เท่ากับ 37,170 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ร้อยละ 4.7 และสังกะสีผสม (Zinc Alloy) มี
ยอดขายเท่ากับ 12,841 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ร้อยละ 13.8 นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังทำการทดลองผลิตภัณฑ์
ใหม่เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดอีกประมาณ 1,747 ตันอีกด้วย ผลจากการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์
สังกะสีและการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ทำให้มีผลกำไรที่ดีขึ้นแม้ว่าราคาโลหะสังกะสีโลก (LME) จะลดลง
กว่า 155 เหรียญสหรัฐต่อตันก็ตาม
จากงบการเงินรวม บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเท่ากับ 402.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จากงวดเดียวกันของปี 2543 ซึ่งมีกำไร 94.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 324.8 สาเหตุหลักเนื่องจากใน
งบการเงินรวมของครึ่งปี 2544 มีผลกำไรทางบัญชีในไตรมาสแรกจำนวน 150.9 ล้านบาท อันเป็นผลจากการ
ยกเลิกบริษัทย่อยแห่งหนึ่งในการจัดทำงบการเงินรวม ประกอบกับผลกำไรจากการดำเนินงานเฉพาะบริษัท
เองที่ดีขึ้น ทำให้มีผลกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมในปีนี้สูงขึ้น ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของบริษัทใน
เครือนั้น ปัจจุบันบริษัท ฯ ได้เน้นนโยบายดำเนินธุรกิจเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสังกะสีเป็นหลัก และได้ลด
การ ดำเนินธุรกิจในบริษัทในเครือลงทำให้สามารถลดผลกระทบที่สำคัญได้อย่างมาก
2. เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2544 และ 2543
จากงบกำไรขาดทุนเฉพาะบริษัท บริษัทฯ มีกำไรสุทธิประจำไตรมาสเท่ากับ 133.7 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2543 ซึ่งเท่ากับ 37.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 258.4 สาเหตุที่ทำให้
ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากผลของการลดต้นทุนการผลิต
การเปลี่ยน Product Mix และการลดต้นทุนทางการเงิน ประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาทจาก 38 บาทต่อ
เหรียญสหรัฐ ในไตรมาส 2 ของปี 2543 เป็น 45 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ในไตรมาส 2 ของปีนี้ทำให้มีรายได้
มากขึ้น
ด้านยอดขาย บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,334.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,169.9 ล้านบาท ณ ไตรมาส
เดียวกันของปี 2543 หรือเท่ากับร้อยละ 14.1 โดยเป็นยอดขายผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีแท่ง (Zinc Ingot) เท่ากับ
17,720 ตัน เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 3.6 ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีผสม (Zinc
Alloy) เท่ากับ 6,499 ตัน เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 9.4 ทั้งนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ในการ
ทดลองตลาดอีกด้วย
จากงบการเงินรวม บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2544 เท่ากับ
134.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2543 เท่ากับ 25.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 433.7 อันเป็นผล
จากนโยบายเน้นการดำเนินธุรกิจสังกะสีเป็นหลัก (Core Business) ทำให้ไม่มีผลกระทบที่สำคัญจากบริษัทใน
เครือดังเช่นในปี 2543
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายพินิต วงศ์มาศา)
ประธานกรรมการบริหาร
ส่วนเลขานุการคณะกรรมการบริษัท
โทร. 661 9900 ต่อ 1402, 1501
Page 1 of 3