ที่ ผดม.ก.02.76/2543 15 สิงหาคม 2543 เรื่อง นำส่งงบการเงินและชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงินรวมประจำไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 รวม 2 ฉบับ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงินรวมประจำ ไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 ที่ผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ และ ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มาพร้อมนี้ รวม 2 ฉบับ และขอชี้แจงผลการดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงไปดังนี้ 1. เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปี 2543 และ 2542 จากงบการเงินเฉพาะบริษัท บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ ณ งวดครึ่งปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2543 จำนวน 108 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลกำไรสุทธิ จำนวน 107.5 ล้านบาท ณ งวดเดียวกับของปี 2542 โดยมียอดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไร ก็ตาม เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงาน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานและก่อนรายได้พิเศษ ณ งวดครึ่งปีนี้ เท่า กับ 219.6 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2542 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 94.40 ล้านบาท เท่ากับร้อยละ 132 แต่เนื่องจากในงวดครึ่งปี 2543 บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการปรับอัตราแลกเปลี่ยนตามตลาด เท่ากับ 61.27 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายการเกษียณอายุ ก่อนกำหนดเท่ากับ 32.87 ล้านบาท รวมถึงผลจากการปรับปรุงการตัดค่าเสื่อมราคาบ่อกากแร่อีก 11.26 ล้านบาท จึงทำให้ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยดังกล่าว บริษัทฯ มีรายได้รวม ณ งวดครึ่งปีสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2543 จำนวน 2,374.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,109.52 ล้านบาท ณ งวดเดียวกันของปี 2542 หรือเท่ากับร้อยละ 12.5 โดยเป็นยอดขายผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีแท่ง (Zinc Ingot) เท่ากับ 35,491 เมตริกตัน ส่วนสังกะสีผสม (Zinc Alloy) มียอดขาย 11,285 เมตริกตัน แม้ว่าในช่วงครึ่งปี 2543 ยอดขายในรูปน้ำหนักจะลดลงจากปี 2542 เล็กน้อยอันเป็นผลมาจากการหยุดปรับปรุงเครื่องจักรบางส่วน แต่เนื่อง จากราคา LME ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของโลหะสังกะสีในงวดดังกล่าวของปี 2543 สูงขึ้นประมาณ 152 เหรียญสหรัฐต่อ เมตริกตัน จากงวดปี 2542 และการที่ตลาดภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 64 ของงวดครึ่งปี 2542 เป็นร้อย ละ 74 ของงวดครึ่งปี 2543 ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นดังกล่าว . . . / 2 2 จากงบการเงินรวม บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานก่อนหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อย และรายการพิเศษ จำนวน 214.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2542 ซึ่งเท่ากับ 106.83 ล้านบาท หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นร้อยละ 101 แต่เมื่อหักส่วน ของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย และหักค่าใช้จ่ายรายการพิเศษดังที่กล่าวข้างต้น ทำให้มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมเท่ากับ 94.84 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2542 ซึ่งเท่ากับ 71.36 ล้านบาท หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.9 2. เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในงวดไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2543 และ 2542 จากงบกำไรขาดทุน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิประจำไตรมาส เท่ากับ 37.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปี 2542 ซึ่งเท่ากับ 88 ล้านบาท ลดลงกว่าร้อยละ 57 อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณากำไรสุทธิจากการดำเนินงานก่อนราย การพิเศษ บริษัทฯ สามารถทำกำไรเท่ากับ 98.8 ล้านบาท สูงกว่าในไตรมาสเดียวกันของปี 2542 ซึ่งเท่ากับ 70.97 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 39.2 สาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิลดต่ำลงมาก ได้แก่การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามตลาด 52.0 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปี 2542 บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 34.4 ล้านบาท ด้านยอดขาย บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,169.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,070.79 ล้านบาท ณ ไตรมาสเดียวกัน ของงวดปี 2542หรือเท่ากับร้อยละ 9.2 โดยเป็นยอดขายผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีแท่ง (Zinc Ingot) เท่ากับ 17,104 เมตริกตัน ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2542 เล็กน้อย สาเหตุที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทฯ ได้เพิ่มการขายผลิตภัณฑ์โลหะ สังกะสีผสม (Zinc Alloy) ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า นอกจากนั้นยังเป็นผลจากการที่ราคา LME เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น และตลาด สังกะสีภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากงบการเงินรวม บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานก่อนหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อย และรายการพิเศษ จำนวน 96.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2542 ซึ่งเท่ากับ 72.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2 แต่เมื่อหักส่วนของผู้ถือหุ้น ส่วนน้อย และหักค่าใช้จ่ายรายการพิเศษ เช่น การขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ตลอดจนการขาดทุนบริษัทย่อยที่หยุดดำเนิน งานดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้กำไรสุทธิตามงบการเงินรวมคงเหลือ 25.16 ล้านบาท ลดลง 51.46 ล้านบาท จากปี 2542 ซึ่งเท่ากับ 76.62 ล้านบาท จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายพินิต วงศ์มาศา) ประธานกรรมการบริหาร ส่วนเลขานุการคณะกรรมการบริษัท โทร. 661 9900 ต่อ 1501, 1402