PDI โชว์งบปี 60 กำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 10 ปี
ฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI เปิดเผยว่า ปี 2560 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีมาก โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 6,357 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมีจำนวน 905 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 89 เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีผลกำไรสุทธิ 478 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการดำเนินงานด้านการตลาดที่เข้มแข็ง ประกอบกับราคาโลหะสังกะสีโลกในปี 2560 ที่ปรับตัวสูงกว่าระดับ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และค่าพรีเมียมจากการขายในประเทศที่ยังคงดีอยู่ โดยราคาเฉลี่ยโลหะสังกะสีโลกทั้งปี 2,884 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยของปี 2559 ที่ 2,091 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
“ผลประกอบการปี 2560 ดีกว่าที่ได้คาดหมายไว้มาก โดยเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี และสูงสุดเป็นอันดับสามในรอบ 33 ปีของบริษัทฯ สาเหตุมาจากราคาโลหะสังกะสีโลกในปี 2560 ที่ปรับตัวสูงมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และทำกำไรได้อย่างเต็มที่จากสต็อกโลหะสังกะสีที่ผลิตจากแร่เหมืองแม่สอดที่มีต้นทุนต่ำมากที่มีอยู่จำนวนกว่า 30,000 ตัน ซึ่งได้กระจายการจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศ นอกจากนี้ PDI ยังสามารถบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับรู้รายได้มากขึ้นจากธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทดแทนเป็นครั้งแรก” ฟรานซิส กล่าว
ในปีที่ผ่านมา PDI ได้บรรลุผลสำเร็จตามแผนการยุติธุรกิจสังกะสีในกระบวนการผลิตแบบเดิมก่อนปรับสู่ธุรกิจเทรดดิ้งโลหะสังกะสีแบบเต็มตัวในปีนี้ รวมทั้งเดินหน้ามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กลุ่มธุรกิจด้านพลังงานมีความคืบหน้าไปมาก ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและวัสดุรีไซเคิลเพิ่งจะเริ่ม รวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจก็อยู่ในการพิจารณาลงทุนของบริษัทฯ เช่นกัน