ที่ ผดม.ก.02.63/2544 14 พฤศจิกายน 2544 เรื่อง ขอนำส่งงบการเงินและชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสและสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนางบการเงินเฉพาะของบริษัทและงบการเงินรวมประจำไตรมาสและสำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 รวม 2 ฉบับ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งสำเนางบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ และงบการ เงินรวมประจำไตรมาส และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 ที่ได้สอบทานโดยผู้สอบ บัญชีของบริษัทฯ ฉบับภาษาไทย และฉบับภาษาอังกฤษ มาพร้อมนี้ รวม 1 ชุด พร้อมกันนี้ใคร่ขอชี้แจงผลการ ดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงดังนี้ 1. เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในงวดไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2544 และ 2543 จากงบกำไรขาดทุนเฉพาะของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่สามสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิจำนวน 83.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลขาดทุนสุทธิจำนวน 32.4 ล้านบาท ณ ไตรมาสเดียวกันของปี 2543 เพิ่มขึ้น 358% ทั้งนี้เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย การพัฒนาประ สิทธิภาพการผลิต และการลดภาระดอกเบี้ยจ่าย นอกจากนั้นผลของการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินกู้ระยะยาวจาก สกุลเหรียญสหรัฐเป็นสกุลบาททั้งหมดทำให้บริษัทฯ ลดความเสี่ยงทางอัตราแลกเปลี่ยนลงได้อย่างมาก ด้านยอดขาย บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,332.4 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วเล็ก น้อย แม้ปริมาณขายสังกะสีรวมจะสูงขึ้นจาก 25,029 ตัน ในปี 2543 มาเป็น 26,232 ตันในไตรมาสสามของปีนี้ และค่าเงินบาทที่อ่อนลงทำให้มีรายรับเป็นเงินบาทที่สูงขึ้นก็ตาม หากการลดลงของราคาเฉลี่ยสังกะสีโลก (LME) ซึ่งลดลงจากปี 2543 ถึง 23% ทำให้รายได้รวมไม่ได้เพิ่มตามขึ้นไปนัก จากงบการเงินรวม บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 83.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งขาดทุน 47.2 ล้านบาท หรือเท่ากับกำไรเพิ่มขึ้น 277% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และการลดลงของดอกเบี้ยจ่าย รวมถึงการลดลงของความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น 2. เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในรอบเก้าเดือน ปี 2544 และ 2543 จากงบกำไรขาดทุนในรอบเก้าเดือนแรกของปี 2544 บริษัท ฯ มีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 335.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 259.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 343 % โดยเป็นผลมาจาก ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต ตลอดจนการลดดอกเบี้ยจ่าย นอกจากนั้นผลของ การเปลี่ยนแปลงสกุลเงินกู้ระยะยาวมาเป็นสกุลบาททั้งหมด ทำให้บริษัท ฯ สามารถลดความเสี่ยงทางอัตรา แลกเปลี่ยนลงได้อย่างมาก ส่งผลให้มีผลประกอบการที่ดี ด้านยอดขาย บริษัทฯ มีรายได้รวมสุทธิในรอบเก้าเดือนเท่ากับ 4,034.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3,722.4 ล้านบาทในรอบเดียวกันของปีที่แล้ว หรือคิดเป็นร้อยละ 8.4 สาเหตุที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจาก ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณขายโลหะสังกะสีรวมเท่ากับ77,881 ตันหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 ในงวด เดียวกันของปี 2543 นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนลง แม้ว่าราคาเฉลี่ยสังกะสีโลก (LME) ลดลงอย่างมากก็ตาม จากงบการเงินรวม บริษัท ฯ มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 486.4 ล้านบาท ในรอบเก้าเดือนแรกของปี ในขณะที่มีผลกำไรสุทธิเพียง 47.7 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายพินิต วงศ์มาศา) ประธานกรรมการบริหาร ส่วนเลขานุการคณะกรรมการบริษัท โทร. 661-9900 ต่อ 1402, 1501 Page 1 of 2