แถลงข่าวเกี่ยวกับปริมาณแร่สำรองและทิศทางการดำเนินงานในปี 42
ที่ ผดม.ก.02.07/2542
3 กุมภาพันธ์ 2542
เรื่อง แถลงข่าวเกี่ยวกับปริมาณแร่สำรองและทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2542
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เนื่องด้วยบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้รับการติดต่อสอบถามจากสื่อมวลชนและ
ผู้ลงทุนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับปริมาณแร่สำรองของเหมืองแม่สอด บริษัทฯ จึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวต่อ
สื่อมวลชนและผู้ลงทุนเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2542 ในประเด็นดังกล่าว ตลอดจนทิศทางการ
ดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2542 โดยนายเบร็ต แลมเบิร์ท กรรมการผู้จัดการ สรุปสาระสำคัญดังนี้
- บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิตโลหะสังกะสีชั้นนำที่มีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดรายหนึ่ง
ของโลก โดยในปี 2542 จะเพิ่มปริมาณการใช้แร่สังกะสีชนิดซิลิเกตจากเหมืองแม่สอดจากปีที่ผ่านมา
อีกประมาณร้อยละ 20 เพื่อใช้ถลุงที่โรงถลุงสังกะสี จ. ตาก เป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 220,000
ตันแร่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2541 เหมืองแม่สอดมีปริมาณแร่สำรองประมาณ 1.05 ล้านตัน ที่
คุณภาพแร่สังกะสีเฉลี่ยร้อยละ 13.13 โดยความสมบูรณ์ที่ใช้มากกว่าร้อยละ 5 (Above 5%
Cut off) ซึ่งเพียงพอสำหรับป้อนโรงถลุงฯ ได้ประมาณ 4 ปีเศษ จากผลการเจาะสำรวจใน
บริเวณพื้นที่ประทานบัตรปัจจุบัน พบปริมาณแร่สำรองเพิ่มเติม 1.38 ล้านตัน (คุณภาพแร่สังกะสีเฉลี่ย
ร้อยละ 11.49) และในบริเวณพื้นที่ต่อเนื่องจากเขตประทานบัตรไปทางทิศตะวันตก ซึ่งบริษัทฯ
ได้ยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่และกำลังรอการพิจารณาอนุมัติประทานบัตรจากกรมทรัพยากรธรณีอยู่
ยังมีปริมาณสำรองอ้างอิงอีก 0.47 ล้านตัน (คุณภาพแร่สังกะสีเฉลี่ยร้อยละ 15.78) หากได้รับ
อนุมัติประทานบัตรดังกล่าว จะทำให้มีปริมาณแร่สำรองรวมทั้งสิ้น 2.91 ล้านตัน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ
สามารถขยายกำลังการผลิตของเหมืองแม่สอด และลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบแร่จากต่างประเทศ
ลงไปได้อีก
- นอกจากนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2541 บริษัทฯ ได้รับอาชญาบัตรพิเศษ จำนวน 3 แปลง
ครอบคลุมพื้นที่ 45 ตารางกิโลเมตรบริเวณโดยรอบเหมืองแม่สอด ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มงานสำรวจหาแหล่งแร่
เพิ่มเติมแล้ว สำหรับในปี 2542 บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนเพื่อการสำรวจที่เหมืองแม่สอดเป็นจำนวน 30
ล้านบาท
.../2
- 2 -
- บริษัทฯ มีแผนเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตของโรงถลุงสังกะสี โดยคาดว่า
จะสามารถเพิ่มการผลิตแผ่นสังกะสีเกินกว่า 100,000 เมตริกตันต่อปีเป็นครั้งแรก ตลอดจนเพิ่มยอดขาย
อีกร้อยละ 8-10 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 97,000 เมตริกตัน โดยจะเน้นการผลิตโลหะสังกะสีแท่งชนิด
คุณภาพสูงพิเศษ (99.995% Zn) และโลหะสังกะสีผสม ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่า ด้านการตลาด
ในปี 2542 บริษัทฯ คาดว่าปริมาณความต้องการใช้โลหะสังกะสีภายในประเทศจะสูงขึ้น โดยเฉลี่ย
เท่ากับร้อยละ 55 ของยอดขายรวม เทียบกับร้อยละ 50 เมื่อปีที่ผ่านมา
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และเผยแพร่เพื่อผู้ลงทุนทั่วไปได้ทราบต่อไปด้วย จักขอบคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
(นายเบร็ต แลมเบิร์ท)
กรรมการผู้จัดการและประธานผู้บริหาร