- 4 - 3.2 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ประกอบด้วยรายการเงินสด เงินฝาก ธนาคาร และ เงินลงทุนระยะสั้น ซึ่งเป็นเงินฝากสถาบันการเงิน ที่มีกำหนดไม่เกิน 3 เดือน 4. เงินลงทุนในบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2538 คณะกรรมการของบริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่มี มติเห็นชอบยกเลิกการศึกษาโครงการถลุงแร่ของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง และ บริษัทย่อยดังกล่าวได้ตัดค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชีเกี่ยวกับโครงการดัง กล่าวจำนวนประมาณ 185 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายแล้วในเดือนเมษายน 2538 ในปี 2538 บริษัทได้ขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยดังกล่าวให้กับบริษัท ย่อยอีกแห่งหนึ่งในราคาตามบัญชีซึ่งคำนวณตามวิธีส่วนได้เสีย จึงไม่ มีกำไรขาดทุนจากการขายเงินลงทุนดังกล่าว งบการเงินรวมนี้ได้รวม รายการเงินลงทุนของบริษัทย่อยดังกล่าวที่บริษัทได้ขายไปด้วยแล้ว (หมายเหตุข้อ1) 5. สินค้าคงเหลือ 5.1 สินค้าคงเหลือ ประกอบด้วยรายการดังต่อไปนี้ 2539 2538 สินค้าสำเร็จรูป - โลหะสังกะสี 59,264,414 27,139,180 - โลหะผสมสังกะสี 8,253,719 6,280,933 - โลหะแคดเมี่ยม 12,362,344 17,566,273 - อื่น ๆ 30,364,248 55,061,968 งานระหว่างทำ 164,048,873 161,618,137 วัตถุดิบ - สินแร่สังกะสี 445,745,313 456,089,503 - อื่น ๆ 77,282,185 54,935,245 พัสดุคงคลัง 183,887,764 189,938,959 สินค้าระหว่างทาง 14,002,213 111,717,529 ที่ดิน 1,395,788 1,395,788 ต้นทุนค่าพัฒนาที่ดิน 207,343 207,343 ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม 642,610 642,610 สำรองสินค้าล้าสมัย (10,306,049) (10,661,412) บาท 987,150,765 1,071,932,056 .../5 - 5 - 6. เงินลงทุนในบริษัทในเครือ บริษัทร่วมและบริษัทอื่น เงินลงทุนในบริษัทในเครือ บริษัทร่วมและบริษัทอื่น ประกอบด้วย 6.1 บริษัทในเครือ ถือหุ้นร้อยละ 2539 2538 บริษัท ผาแดง อินดัสทรี (ลาว) จำกัด 100 5,000,000 5,000,000 6.2 บริษัทร่วม ถือหุ้นร้อยละ 2539 2538 บริษัท ผาแดงสยามอุตสาหกรรม จำกัด 50 1,410,361 1,369,131 (ชำระร้อยละ 50 ของมูลค่าหุ้น) บริษัท ไอ พี ดี แลนด์ จำกัด 50 14,151,986 20,311,234 15,562,347 21,680,365 6.3 บริษัทอื่น ถือหุ้นร้อยละ 2539 2538 บริษัท ปุ๋ยแห่งชาติ จำกัด 3.49/5.59 125,737,100 125,737,100 บริษัท ร่วมทุนโปแตชอาเซียน จำกัด 14.08 10,010,000 10,010,000 บริษัท ศรีราชา พลังงานไฟฟ้า จำกัด 10.00 10,000 10,000 WASTERN METALS NL, AUSTRALIA 8.87 205,474,815 - ASIA INVESTMEST (1995) CO.,LTD 20 1,018,200 - MILLIENNUM GOLD CORPORATION 10.11 4,441,626 - 346,691,741 135,757,100 รวมเงินลงทุนในบริษัทในเครือ บริษัทร่วมและบริษัทอื่น บาท 367,254,088 162,437,465 .../6 - 6 - ในปี 2538 บริษัท ผาแดง อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้ชำระค่าหุ้น เพิ่มทุนในบริษัท ผาแดง พุงซาน จำกัด จำนวน 150,841,900 บาท ของ จำนวนทุนของบริษัทดังกล่าวที่เพิ่มทั้งสิ้น 200 ล้านบาท ซึ่ง บริษัท ผาแดง พุงซาน เมททัลส์ จำกัด ได้นำไปจดทะเบียนเพิ่มทุนกับ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทแล้ว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2538 ดัง นั้นจึงได้รวมงบการเงินของบริษัท ผาแดง พุงซาน เมททัลส์ จำกัด ในงบการเงินรวม นี้ ตามอัตราร้อยละ 61.98 (ดูหมายเหตุข้อ 1) 6.4 สำหรับปีสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 ส่วนได้ เสียในกำไร (ขาดทุน) สุทธิที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทร่วมที่นำมารวม ในงบการเงินตามวิธีส่วนได้เสีย คำนวณจากงบการเงินประจำปีสิ้นสุด เพียงวันเดียวกันตามลำดับ เมื่อคิดเป็นร้อยละของขาดทุนสุทธิแล้วมี ดังต่อไปนี้ (หมายเหตุข้อ 6.2) 2539 2538 อัตราการถือหุ้น ร้อยละของ ร้อยละของ ร้อยละ ขาดทุนสุทธิ ขาดทุนสุทธิ บริษัท ผาแดงสยามอุตสาหกรรม จำกัด (ชำระร้อยละ 50 ของมูลค่าหุ้น) 50 0.01 0.01 บริษัทไอ พี ดี แลนด์ จำกัด 50 (1.42) (0.56) สำหรับปีสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 ส่วนได้เสีย ในกำไร (ขาดทุน) สุทธิที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทร่วม (บริษัท ไอ พี ดี แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งและบริษัท ผา แดงสยามอุตสาหกรรม จำกัด) ที่นำมารวมตามวิธีส่วนได้เสีย คำนวณจาก กำไร (ขาดทุน) สุทธิ ในงบการเงินซึ่งยังมิได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่น 6.5 เงินลงทุนในบริษัท ผาแดงอินดัสทรี (ลาว) จำกัด ดังกล่าวใน ข้อ 6.1 แสดงในราคาทุน เนื่องจากไม่มีข้อมูลของบริษัทดังกล่าวที่จะ นำมารวมในงบการเงินรวมนี้ได้ในขณะนี้ และเงินลงทุนดังกล่าวไม่มีสาระ สำคัญต่องบการเงินรวมนี้ .../7 - 7 - 7. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ประกอบด้วย 2539 2538 ที่ดิน 252,624,849 248,630,385 ส่วนปรับปรุงที่ดิน 168,483,121 168,314,121 อาคาร 1,893,691,075 1,890,420,117 ส่วนปรับปรุงอาคาร 9,940,344 9,762,449 เครื่องจักร 3,953,907,881 3,944,924,805 เครื่องมือหนัก 131,282,777 127,571,764 อุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และสิ่งตรึงตรา 292,197,012 277,035,343 ยานพาหนะ 38,249,474 53,006,927 ค่าสร้างถนน - เหมืองแม่สอด 2,415,573 2,415,573 ประทานบัตรและอื่น ๆ 44,934,162 56,858,701 สิ่งปลูกสร้างอื่น 472,450,652 471,740,652 7,260,176,920 7,250,680,837 หัก ค่าเสื่อมราคาและ ค่าตัดจำหน่ายสะสม (2,582,601,824) (2,202,939,328) 4,677,575,096 5,047,741,509 อาคารและอุปกรณ์โรงงานระหว่างก่อสร้าง 367,815,059 115,830,246 บาท 5,045,390,155 5,163,571,755 ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายประจำปี บาท 395,869,403 351,919,907 .../8 - 8 - 8. สินทรัพย์อื่น สินทรัพย์อื่นประกอบด้วย 2539 2538 ต้นทุนโรงงานช่วงทดลองเครื่อง (สุทธิ) 31,224,676 36,625,477 รายจ่ายสูงกว่ารายได้ขั้นพัฒนา (สุทธิ) 100,440,427 122,910,312 สินทรัพย์และข้อมูลจากบริษัทอื่น (สุทธิ) 1,234,203 1,645,604 เงินมัดจำและพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 6,464,386 7,989,772 ค่าที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียมทางการเงิน 35,355,807 45,039,603 ค่าอาชญาบัตรพิเศษ 10,819,836 6,689,445 ค่าใช้จ่ายในการสำรวจแหล่งแร่ 208,108,924 190,465,851 อื่น ๆ 122,234,941 138,972,859 บาท 515,883,200 550,338,923 9. เงินกู้ยืมระยะยาว 9.1 เงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัท เงินกู้ยืมระยะยาวใช้สำหรับโครงการปรับ เปลี่ยน กระบวนการผลิตแร่ สังกะสี มีกำหนดชำระคืนทุก 6 เดือน ตั้งแต่ พ.ศ. 2539-2543 อัตรา ดอกเบี้ย MLR + ร้อยละ0.125 ต่อปี ซึ่งสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาว ได้ระบุเงื่อนไขบางประการรวมทั้งการดำรงอัตราส่วนหนี้สินทั้งหมดต่อ ส่วนของผู้ถือหุ้นของผู้กู้ไว้ด้วย .../9 - 9 - 9.2 เงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้ยืมจากธนาคารต่างประเทศในวง เงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีกำหนดชำระคืน 6 งวด ๆ ละ เท่า ๆ กัน ทุก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2537 และมี อัตราดอกเบี้ย SIBOR+ ร้อยละ 0.75 ต่อปี เงินกู้นี้ค้ำประกันโดย บริษัทและบริษัทต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท บริษัทย่อย ได้จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืม ดังกล่าวครบแล้วในเดือนสิงหาคม 2539 บริษัทย่อยได้ทำสัญญาเงินกู้อื่นกับสถาบันการเงินในประเทศและ ธนาคาร โดยมีวงเงิน 320 ล้านบาทและ 150 ล้านบาทตามลำดับ - วงเงิน 320 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืน 16 งวด ๆ ละ เท่า ๆ กัน ทุก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2536 และมีอัตรา ดอกเบี้ย MLR ต่อปี ซึ่งสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวได้ระบุเงื่อนไขที่ สำคัญซึ่งรวมถึงผู้กู้จะไม่ทำการจำนองจำนำทรัพย์สินของผู้กู้แก่เจ้าหนี้ราย อื่นและการดำรงอัตราส่วนหนี้สินทั้งหมดต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของผู้ กู้ไว้ไม่เกิน 4:1 ในกรณีที่ผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดใน สัญญา ผู้ให้กู้อาจจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มหรือผู้ให้กู้อาจจะแจ้งให้ผู้ กู้ดำเนินการแก้ไขกรณีผิดสัญญา หากผู้กู้ยังมิได้แก้ไข ผู้ให้กู้มี สิทธิบอกเลิกสัญญาแล้วเรียกเงินกู้ที่ค้างชำระคืนทั้งหมดได้ เงินกู้นี้ค้ำประกันโดยบริษัทและบริษัทต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เมื่อปลายปี 2538 บริษัทย่อยได้ติดต่อเจ้าหนี้เงินกู้ธนาคารและ สถาบันการเงินในประเทศ ขอผ่อนผันการจ่ายชำระส่วนของหนี้ระยะยาวที่ ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปีจำนวน 40 ล้านบาท และได้รับหนังสือแจ้งจากเจ้า หนี้ดังกล่าวลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2539 ให้ได้รับการผ่อนผันการ จ่ายชำระส่วนหนึ่งของหนี้ระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปีดังกล่าว ข้างต้นแล้ว ซึ่งทำให้งวดสุดท้ายของการจ่ายชำระเงินกู้ดังกล่าว เปลี่ยนจากเดิมเป็นปี 2545 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 บริษัทย่อยนี้มีเงินกู้ยืมตามวง เงินดังกล่าวคงเหลือเป็นจำนวนเงิน 220 ล้านบาท .../10 - 10 - - วงเงิน 150 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืน 8 งวด ๆ ละ เท่า ๆ กัน ทุก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2540 และมีอัตรา ดอกเบี้ย MLR+ร้อยละ 0.25 ต่อปี ซึ่งสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวฉบับนี้ ได้ระบุเงื่อนไขที่สำคัญซึ่งรวมถึง ผู้กู้จะไม่ทำการจำนองจำนำ ทรัพย์สินของผู้กู้แก่เจ้าหนี้รายอื่นและการดำรงอัตราส่วนหนี้สิน ทั้งหมดต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของผู้กู้ไว้ไม่เกิน 2:1 ในกรณีที่ผู้ กู้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา ผู้ให้กู้อาจจะคิดดอกเบี้ย เพิ่มหรือผู้ให้กู้อาจจะแจ้งให้ผู้กู้ดำเนินการแก้ไขกรณีผิดสัญญา หากผู้กู้ยังมิได้แก้ไข ผู้ให้กู้มีส ทธิบอกเลิกสัญญาแล้วเรียกเงินกู้ที่ค้างชำระคืนทั้งหมดได้ เงินกู้นี้ค้ำประกันโดยบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 บริษัทย่อยนี้มีเงินกู้ยืมตาม วงเงินดังกล่าวคงเหลือเป็นจำนวน 150 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 บริษัทย่อยนี้มีอัตราส่วนหนี้สินทั้งหมด ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเกินอัตราส่วนที่ได้ระบุไว้ในสัญญาสองสัญญาดัง กล่าวข้างต้นมากจึงได้แสดงเงินกู้ระยะยาวดังกล่าวนี้เป็นส่วนของหนี้ ระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปีภายใต้หัวข้อหนี้สินหมุนเวียนและ ฝ่ายบริหารของบริษัทย่อยกำลังดำเนินการเพื่อให้อัตราส่วนเป็นไปตามเงื่อนไขต่อไป .../11 - 11 - 10. ทุนเรือนหุ้น เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2539 ผู้ถือหุ้นมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 1,040 ล้านบาท เป็น 2,260 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญ จำนวน 122 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท ซึ่งบริษัทได้นำมติดัง กล่าวไปจดทะเบียนกับกรมทะเบียนการค้าแล้ว เมื่อวัน ที่ 12 กรกฎาคม 2539 ตามมติดังกล่าวกำหนดให้ดำเนินการจัดสรร และเสนอ ขายหุ้นเพิ่มทุน ดังนี้ 1. เสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 52 ล้านบาท แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามอัตรา ส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 10 บาท โดยกำหนดวันจอง ซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2539 2. เสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 70 ล้านหุ้น ให้ผู้ลงทุนตามที่กำหนดในมติ ดังกล่าวโดยกรรมการผู้จัดการมีอำนาจที่จะกำหนดราคาและเงื่อนไขในการ เสนอขายตามความเหมาะสมต่อไป ในปี 2539 บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมบางส่วนเป็นเงินจำนวน 403,69 5,580 บาท จากจำนวนหุ้นสามัญ 40,369,558 หุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท และ บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นทุนชำระแล้ว รวม เป็น 1,443,695,580 บาท เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2539 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2539 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมีมติให้นำ หุ้นส่วนที่เหลือจำนวน 11,630,442 หุ้น ที่เหลือจากการขายให้กับผู้ ถือหุ้นเดิมไปรวมกับส่วนที่จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะ เจาะจง จำนวน 70 ล้านหุ้นต่อไป 11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทและบริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้จัดตั้งกองทุนเงินสะสมพนักงานสำหรับ พนักงานของบริษัทที่สมัครเป็นสมาชิกของกองทุน โดยหักจากเงินเดือนของ พนักงานส่วนหนึ่งและบริษัทจ่ายสมทบให้อีกส่วนหนึ่ง บริษัทได้แต่ง ตั้งผู้จัดการกองทุนเพื่อบริหารกองทุนดังกล่าว ตามกฎเกณฑ์และข้อ กำหนดพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 .../12 -12 - 12. สำรองตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทจะต้องจัดสรรกำไรสุทธิ ประจำปีส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของกำไรสุทธิ ประจำปี หักด้วยยอดขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าทุนสำรองนี้จะมี จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียน 13. สำรองพิเศษ ในปี 2531 บริษัทได้กันเงินสำรองพิเศษจากกำไรจำนวน 345 ล้าน บาท ตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวนหนึ่ง ซึ่งบริษัท ได้ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวดังกล่าวครบถ้วนแล้วในปี 2536 ที่ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2538 อนุมัติให้ โอนเงินสำรองพิเศษจำนวน 345 ล้านบาท ไปรวมกับกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 14. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น 14.1 บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระผูกพันตามสัญญาก่อสร้างและอื่น ๆ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539เป็นจำนวนเงิน ประมาณ 2.4 ล้าน FRF, 12 ล้าน BEF และ 24 ล้านบาท และ ณ วัน ที่ 31 ธันวาคม 2538 จำนวนเงิน ประมาณ 16 ล้าน FRF, 80 ล้าน BEF และ 67 ล้านบาท 14.2 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ อสังหาริมทรัพย์มีภาระผูกพันตามสัญญาร่วม ดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมผาแดง (หมายเหตุข้อ 15) ดังนี้ - ค่าดำเนินการให้ความสะดวก และบริการสนับสนุนต่อการดำเนินกิจการ เป็นเงิน 540,240 บาท ต่อปี และเพิ่มขึ้นทุก ๆ 5 ปี ในอัตราร้อยละ ห้า ของอัตราในช่วงระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นตั้งแต่วัน ที่ 7 กันยายน 2535 รวมทั้งผลประโยชน์ตอบแทนต่อการใช้พื้นที่ที่ท่า เทียบเรือตามที่กำหนดในสัญญา 14.3 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระ หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ธนาคารค้ำประกันเป็นเงิน ประมาณ 241 ล้านบาท และ 172 ล้านบาท ตามลำดับ .../13 - 13 - 14.4 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2539 และ 2538 บริษัทและบริษัทย่อยมีเลต เตอร์ออฟเครดิตที่ยังไม่ได้ใช้เป็นจำนวนเงินประมาณ 82 ล้าน บาท และ 162 ล้านบาท ตามลำดับ 14.5 ในปี 2538 บริษัทได้ทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้ของบริษัทย่อยในรูป ของ CASH DEFICIENCY AGREEMENT จำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัญญา นี้ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทในบริษัทย่อยดัง กล่าว และในปี 2539 และ 2538 บริษัทได้ทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้ของ บริษัทย่อยดังกล่าวอีก 370 ล้านบาท และ 538 ล้านบาทตามลำดับ 14.6 ในเดือนพฤศจิกายน 2538 บริษัทได้ทำบันทึกความเข้าใจกับบริษัท ต่างประเทศแห่งหนึ่ง โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการที่บริษัทจะลงทุน ซื้อหุ้นในบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนประมาณ 400 ล้านบาท รวมทั้งการที่ บริษัทและบริษัทดังกล่าวจะทำสัญญาซื้อขายแร่ระยะยาว จนถึงวัน ที่ 31 ธันวาคม 2539 บริษัทได้ลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทดังกล่าวแล้ว เป็นจำนวนเงินประมาณ 205 ล้านบาท 14.7 ในเดือนธันวาคม 2538 บริษัทได้รับหนังสือแจ้งการประเมินภาษี เงินได้นิติบุคคลจากกรมสรรพากร เป็นเงินค่าภาษีเงินได้ นิติบุคคล เบี้ยปรับและเงินเพิ่มรวมทั้งหมดจำนวนประมาณ 31.72 ล้าน บาท ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2539 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ให้ยกเลิกการ ประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคล งดและลดเบี้ยปรับเงินเพิ่มดังกล่าว (ยังมีต่อ)